2 ก.พ. 2567

ประเภทของพัดลมโรงงาน มีกี่ประเภท

พัดลมโรงงานมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละสถานที่ ประเภทหลัก ๆ ของพัดลมโรงงาน ได้แก่:



1.พัดลมแบบ Axial (พัดลมแกนเพลา):

  • ใช้ใบพัดที่หมุนรอบแกนเพื่อผลักอากาศในทิศทางที่เดียวกับแกนของใบพัด
  • ทำงานได้ดีเมื่อต้องการเคลื่อนย้ายปริมาณอากาศใหญ่ แต่มีแรงดันน้อย
  • ใช้ในการระบายอากาศ, ระบบระบายความร้อน, หรือในพื้นที่เปิด

2.พัดลมแบบ Centrifugal (พัดลมแรงเหวี่ยง):

  • มีใบพัดที่หมุนภายในตัวหอพัด สามารถสร้างแรงดันอากาศสูง
  • ใช้ในการเคลื่อนย้ายอากาศที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม หรือเมื่อต้องการแรงดันอากาศสูง
  • พบได้บ่อยในระบบทำความเย็น, ระบบระบายอากาศ, หรือการขจัดฝุ่นและก๊าซ

3.พัดลมกันระเบิด (Explosion Proof Fans):

  • ออกแบบมาสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีศักยภาพในการเกิดระเบิดหรือไฟไหม้
  • ปลอดภัยสำหรับการใช้งานในโรงงานเคมี, โรงกลั่นน้ำมัน, หรือโรงงานที่มีการจัดการกับวัสดุไวไฟ

4.พัดลมติดผนัง (Wall-Mounted Fans):

  • ติดตั้งบนผนัง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่
  • ใช้เพื่อระบายอากาศและลดความชื้นในพื้นที่เล็กๆ หรือในจุดที่ต้องการการระบายอากาศเฉพาะจุด

5.พัดลมตั้งพื้น (Floor Fans):

  • พัดลมแบบพกพาที่สามารถวางได้บนพื้น เหมาะสำหรับการใช้งานชั่วคราวหรือเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ง่าย
  • ใช้ในพื้นที่ทำงาน, โรงเก็บสินค้า, หรือเป็นการชั่วคราวเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ

6.พัดลมแบบพิเศษ (Specialty Fans):

  • ออกแบบมาสำหรับงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น พัดลมสำหรับเป่าลมร้อน, พัดลมสำหรับสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น, หรือพัดลมสำหรับการระบายควัน
  • มักจะมีการออกแบบที่เฉพาะ

7.พัดลมระบายอากาศ ทำหน้าที่ระบายอากาศร้อนและความชื้นออกจากโรงงาน นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงงานผลิตสารเคมี โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

8.พัดลมดูดควัน ทำหน้าที่ดูดควันและฝุ่นละอองออกจากพื้นที่การทำงาน นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงงานผลิตยา เป็นต้น

9.พัดลมขับอากาศ ทำหน้าที่ขับอากาศร้อนหรืออากาศเสียออกจากโรงงาน นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น โรงงานผลิตเหล็ก โรงงานผลิตเซรามิก โรงงานผลิตปูน เป็นต้น

10.พัดลมไอน้ำ ทำหน้าที่พ่นละอองน้ำเพื่อระบายความร้อนและความชื้นออกจากโรงงาน นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงงานผลิตยา โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

เจาะจงเพื่อรองรับความต้องการในการใช้งานที่ไม่เหมือนใครหรือในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายเฉพาะ

แต่ละประเภทของพัดลมโรงงานมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในสถานที่และสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกพัดลมโรงงานที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของแต่ละโรงงานหรือพื้นที่ที่จะใช้งาน.

บริษัท ชินโค ไคเซ็น จํากัด เป็นผู้จัดจำหน่าย ให้เช่า ออกแบบ ติดตั้ง 

พัดลมอุตสาหกรรม มาตรฐานญี่ปุ่น ยี่ห้อ ONISHI ท่อลม เครื่องเชื่อมอุตสาหกรรม PANASONIC และอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงให้กับหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม

บริษัทของเรามีสินค้าให้เลือกหลากหลาย เช่น พัดลมอุตสาหกรรม โอนิชิ (Onishi) พัดลมระบายอากาศ พัดลมกันระเบิด พัดลมถังกลม พัดลมท่อ พัดลมโรงงาน พัดลมฟาร์ม ระบบ EVAP พัดลมโบลว์เวอร์ รวมถึง ท่อส่งลม ท่อลมผ้าใบ ท่อลมกระดูกงู ท่อลมดัดได้ ท่อลมคงรูป ท่อดักท์ ถุงกรองฝุ่น และ เครื่องเชื่อม พานาโซนิค (Panasonic)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม Add Line หรือ โทร. 086-399-4401, 083-777-6813

7 พ.ย. 2566

ขั้นตอนการส่งเอกสารด่วน

ขั้นตอนการส่งเอกสารด่วน


การส่งเอกสารด่วนเป็นเรื่องสำคัญเมื่อต้องการให้เอกสารถึงปลายทางอย่างรวดเร็วและปลอดภัย. นี่คือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการส่งเอกสารด่วน:

1. บริการขนส่งด่วน (Courier Service):

  • เลือกบริการขนส่งด่วนที่มีชื่อเสียงในการส่งพัสดุแบบด่วนและมีรีวิวที่ดีจากลูกค้า.
  • ควรตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ รวมถึงระยะเวลาการส่ง, การประกันการส่ง, และค่าใช้จ่าย.

2. บริการส่งเอกสารออนไลน์:

  • หากเอกสารสามารถส่งในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล, คุณสามารถส่งผ่านช่องทางอีเมล, โครงการการแชร์ไฟล์เช่น Dropbox, Google Drive, หรือ Microsoft OneDrive.
  • ในกรณีของเอกสารที่สำคัญหรือมีความลับ, ควรใช้การเข้ารหัสและตรวจสอบการยืนยันตัวตนของผู้รับเอกสาร.

3. ส่งผ่านบริการไปรษณีย์:

  • ส่งเอกสารผ่านบริการไปรษณีย์ด่วน, เช่น EMS หรือบริการส่งด่วนอื่น ๆ ที่มีในประเทศของคุณ.

4. บริการมอเตอร์ไซค์รับส่ง:

  • ในเมืองที่มีการจราจรแออัด, บริการมอเตอร์ไซค์รับส่งสามารถเป็นวิธีที่ดีในการส่งเอกสารไปยังปลายทางอย่างรวดเร็ว.

5. แอปพลิเคชันรับส่ง:

  • มีแอปพลิเคชันรับส่งที่สามารถจองบริการรับส่งเอกสารด่วนได้, จากนั้นมีพนักงานจากแอปนั้นจะมารับเอกสารที่คุณและส่งตรงไปยังปลายทาง.

เมื่อคุณเลือกวิธีการส่งเอกสาร, ควรตรวจสอบว่าบริการนั้นเสถียร, มีการรับประกัน, และสามารถติดตามสถานะของเอกสารที่ส่งได้.

ทำไมต้องเลือก TD Express ในการขนส่งเอกสาร

  1. บริษัท TD Express เปิดมานานกว่า 30 ปี มีประสบการณ์และความชำนานในการดำเนินธุรกิจแมสเซนเจอร์ มีลูกค้าใช้บริการต่อเนื่องกว่า 30 ปี
  2. ใช้บริการ TD Express ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
  3. TD Express ให้บริการแมสเซนเจอร์ครอบคลุมกรุงเทพและปริมณฑล
  4. มีทีมงาน Admin Support สำหรับดูแลและประสานงานแก้ไขปัญหาระหว่างแมสเซนเจอร์ และลูกค้าทุกราย
  5. มีทีมแมสเซนเจอร์ทดแทนงาน 100 %
  6. พนักงานแมสเซนเจอร์ของเรามีความซื่อสัตย์และไว้ใจได้เนื่องจากมีการสัมภาษณ์และตรวจประวัติอาชญากรรม 100 %

TD Express Training
มีการฝึกอบรมพนักงานใหม่ก่อนส่งไปปฏิบัติงานจริงกับลูกค้าเพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Call Center (Service Tracking)
มีทีม Call center สำหรับให้ลูกค้าติดต่อประสานงานหรือติดตามงาน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น

ช่องทางการติดต่อ TD Express
Email : info@tdexpress.co.th
Tel : 02-562-0218 -9
Line : https://lin.ee/AeR1sIP
ข้อมูลเพิ่มเติม :
👉 https://www.tdexpress.co.th/

#บริการขนส่งเอกสาร #แมสเซนเจอร์ส่งของ #แมสเซนเจอร์ส่งเอกสาร #รับวางบิล #รับเช็ค #บริษัทรับส่งเอกสาร #แมสเซ็นเจอร์ส่งเอกสาร

16 ก.ย. 2565

ทำไม “โรงงานมาตรฐาน GMP” ถึงเป็นโรงงานที่ปลอดภัยต่อการบริโภค

 


โรงงานต่างๆ ที่การันตีเรื่องความปลอดภัยในด้านการผลิต จะได้รับรอง Good manufacturing practice (GMP) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่สำคัญอย่างมากไม่ว่าจะอุปโภค บริโภค ในประเทศไทยจะมีมาตรฐานที่รับรองแบบ Good manufacturing practice (GMP) ในด้านมาตรฐานทางด้านอุตสาหกรรม ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งชื่อว่า “โรงงานมาตรฐาน GMP” ที่ไปตามโรงงานไหนก็ตาม จะต้องมียืนยันเสมอ โดยเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการผลิตและควบคุมอย่างสม่ำเสมอตามคุณภาพ ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการผลิตจากสารเคมีใดๆ ที่ไม่สามารถกำจัดได้โดยการทดสอบผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายจากโรงงานอุตสาหกรรม

 

เป้าหมายหลักของโรงงานมาตรฐาน GMP คือการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่จำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพ ที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบจากโรงงานอุตสาหกรรม กระบวนการที่ใช้ในการผลิตได้รับการควบคุมอย่างระมัดระวัง และการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกระบวนการต้องได้รับการประเมิน โดยสินค้ากลุ่มนี้จะได้รับรองมาตรฐาน จนนำไปสู่การออกใบอนุญาต และการรับรองในการผลิตกลุ่มสินค้าดังนี้

·        อาหารและเครื่องดื่ม : สินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม จำเป็นต้องมีการรับรองมาตรฐานจาก โรงงานมาตรฐาน GMP เสมอ เพราะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ จะต้องไม่มีสารอันตรายใดๆ เลย เช่น เนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้ แม้แต่อาหารสัตว์ จะต้องผ่าน QC จากโรงงานที่ผลิตเสมอ เพื่อมั่นใจได้ว่าผู้ที่ซื้อสินค้าไป จะไม่ได้รับอันตรายจากการกิน

·        เครื่องสำอาง : สินค้าด้านความงามและเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเครื่องสำอางตกแต่งใบหน้า หรือผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิว จะต้องรับมาตรฐานจากโรงงานมาตรฐาน GMP ก่อนที่จะดำเนินการทำเรื่องขอ อย. เป็นรายการสุดท้าย ในประเทศไทยสามารถขอได้และต้องผ่าน QC มีการทดสอบอาการแพ้ก่อนถึงจะได้ผ่านการทดสอบในตรงนี้ได้ จนกว่าจะแน่ใจว่าสารที่ใช้เหมาะสม เช่น ไม่มีสารพาราเบน

·        ผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค : เนื่องด้วยสินค้ากลุ่มนี้เป็นสินค้าด้านอุตสาหกรรม จะต้องมีการรัดกุมด้านความปลอดภัยในการจัดการเวชภัณฑ์ ซึ่งจะขาดมาตรฐานโรงงานมาตรฐาน GMP ไม่ได้เลย จะต้องมีการตรวจสอบทั้งมาตรฐานการผลิต การทดสอบ การจัดจำหน่าย ว่าจะต้องไม่มีสารปนเปื้อนและส่งผลต่อการใช้ยาและเวชภัณฑ์ในอนาคต

·        อาหารเสริม : ในกลุ่มนี้จะคล้ายๆ กับข้อก่อนหน้า แต่จะต้องใช้ส่วนผสมที่ไม่อันตราย สามารถทานได้ทุกวัย ซึ่งต่างจากเวชภัณฑ์ที่ต้องมีการจำกัดวัยที่เหมาะสม จะต้องได้รับโรงงานมาตรฐาน GMP เช่นกัน ก่อนนำไปสู่การขอ อย.ในขั้นต่อไป

·        อุปกรณ์ทางการแพทย์ : แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ทานได้ แต่อุปกรณ์การแพทย์จะต้องเป็นเกรดที่ไม่มีสารตกค้าง หรือผู้ทำงานในสายแพทย์ พยาบาล จะใช้ได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิต และลดการกระจายรังสี (วัสดุบางอย่างจะมีบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับรังสีเทคนิคด้วย) จะต้องมีการรับรองโรงงานมาตรฐาน GMP ด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยและมีความสะอาดเป็นหลัก

ข้อบังคับโรงงานมาตรฐาน GMP ต้องการแนวทางคุณภาพในการผลิต ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถลดหรือขจัดข้อผิดพลาดต่างๆ ของการปนเปื้อนของมลพิษ การปะปนกันของสารเคมี และสภาพสินค้าเสื่อมคุณภาพได้ เพื่อป้องกันผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือเป็นอันตรายในระยะยาว และเป็นสิ่งที่หลายๆ โรงงานในประเทศไทยจะมีมาตรฐานของโรงงานมาตรฐาน GMP เข้ามาด้วยเสมอ โรงงานมาตรฐาน GMP เกิดขึ้นจากการออกกฎหมายเพราะโศกนาฏกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ที่ไม่ได้มาตรฐานและขาดความรับผิดชอบ ทำให้คนจำนวนมากเสียชีวิต บาดเจ็บ หรือทุพพลภาพตามมา การมีมาตรฐานโรงงานมาตรฐาน GMP รับรองว่าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เราใช้นั้นปลอดภัย บริสุทธิ์ มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ

 

จะสรุปได้ว่ามาตรฐานจากรายการตรวจสอบแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตหรือโรงงานมาตรฐาน GMP เป็นเครื่องมือที่ใช้โดยผู้ผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหาร ยา การแพทย์ และเครื่องสำอางมีคุณภาพสม่ำเสมอและเป็นไปตามมาตรฐานการผลิต และช่วยรับรองการออกแบบที่เหมาะสมทั้งบรรจุภัณฑ์ การระบุสารที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค โดยจะมีการเฝ้าติดตาม ยกระดับการควบคุมกระบวนการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวก ในขณะเดียวกันก็รักษาเอกลักษณ์ ความแข็งแกร่ง และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ได้ดี แน่นอนว่าโรงงานมาตรฐาน GMP มีข้อดีเยอะกว่าที่คิด ช่วยให้ผู้ผลิตปรับปรุงการผลิตสินค้าของตน เมื่อปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง จะส่งเสริมความสอดคล้องในขั้นตอนและผลิตภัณฑ์ภายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงของการเรียกคืน การปนเปื้อน และการสูญเสียผลกำไรที่ตามมา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://steelframebuilt.com/

15 ก.ค. 2558

รูปแบบการวางสินค้าและอุปกรณ์ช้ันวางสินค้า

การวางผงคลังสินค้าต้องคำนึงถึง องค์ประกอบหลายด้านองคประกอบที่สําคญที่สุดคือรูปแบบของการจดวางสินค้าและอุปกรณ์ที่ใชในการจัดเก็บ (ชั้นวางไม้) รายละเอียดต่อไปน้ีจะแสดงถึงข้อมูลเบื้องต้นของรูปแบบการวางสินคาและอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บสินค้าแบบต่าง ๆ

1. Block Stacking


2. Selective Pallet Racking


3. Drive in Racking


4. Pallet flow rack


5. Mobile pallet racking






5 ปัจจัยสำคัญ ของกลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ


กลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ คือแนวทางทรงคุณค่าที่ช่วยให้ผู้บริหารการขนส่งสินค้า สามารถ ประหยัดต้นทุนและเวลา เมื่อกล่าวถึงการบริหารจัดการคลังสินค้า จะมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ผู้จัดการกองงานขนส่งสินค้าต้องคำนึงถึง ปัจจัยสำคัญที่สุดคือการตระหนักว่าต้นทุนสินค้าคงคลังอาจบานปลายได้สูงกว่าราคาเริ่มต้นในการจัดซื ้อวัสดุภัณฑ์ ปัจจัยอื่นๆที่มี ให้พิจารณาร่วมได้แก่ ค่าใช้จ่ายต่อเนื่องสำหรับการเก็บรักษาสินค้าและพื ้นที่ในการจัดเก็บ รวมทั ้งความแตกต่างของประเภท สินค้า การคำนวณปริมาณการเติมเต็มคลังสินค้าที่แม่นยำ แและการหาจุดตัดเวลาที่เหมาะสมในการสั่งสินค้ารอบใหม่ นอกจากนี ้ ก าลังคนและชั ้นเชิงที่จำเป็ นต่อกลยุทธ์สินค้าคงคลังที่ดี ควรสมดุลกับขนาดและความซับซ้อนของคลังสินค้า รวมถึงเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง นั่นก็คือต้นทุนสินค้าคงคลังที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบ ต่อไปนี ้คือ 5 ปัจจัยสำคัญสูงสุด ที่ผู้จัดการ ขนส่งสินค้าควรคำนึงถึงในการพัฒนาหรือหรือการฟื ้นฟูแผนการจัดการสินค้าคงคลัง